แพะเมืองผี สถานที่ๆ ไม่มีทั้งแพะและผี


ได้มีโอกาสไปจังหวัดแพร่ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา จึงไปแวะชม ที่เที่ยวจังหวัดแพร่ ที่สำคัญแห่งหนึ่งนั่นก็คือ แพะเมืองผี ซึ่งอยู่ห่างไกลจากตัวอำเภอเมืองแพร่ไม่ไกลนัก

 

เพื่อนๆ หลายคนบอกไม่ต้องไปหรอก แค่เนินดินธรรมดา ร้อนก็ร้อน แต่ไหนๆ ก็มาถึงแพร่ละ ก็ขอลองไปดูสักที ว่ามหัศจรรย์ไทยแลนด์ที่เขาว่าไว้หน้าตาเป็นอย่างไร

 

ก็อย่างว่าเนอะ เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้!

 

 

เมื่อไปถึงจากคิดว่าจะสตั๊นไป 10 วิ… เนื่องจากเม้าส์กันมาตามทางไว้เยอะ ว่า แพะเมืองผีไม่มีอะไรจริงจิ๊ง (เสียงสูง)

 

โชคดีที่แดดร่มลมตก ประจวบเหมาะกับนักท่องเที่ยวมีปริมาณน้อย จึงทำให้การแวะ แพะเมืองผี ครั้งนี้ชิลๆ ไปโดยปริยาย  นั่งดูจุดชมวิล กระแสลมพัดเอื่อยๆ   ฟินเวอร์อย่าบอกใครเชียวล่ะ

 

แพะเมืองผี เป็นแหล่งท่องเที่ยวภายในวนอุทยานแพะเมืองผี  ตั้งอยู่ที่ ต.แม่หลาย ต.ทุ่งโฮ่ง ต.น้ำชำ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ มีลักษณะเป็นเนินเขา มีเสาหินรูปทรงประหลาดตา จนมีผู้ขนานนามให้ แพะเมืองผี คือหนึ่งในแกรนด์แคนยอนของเมืองไทย 

 

เอ้ามาดูกัน แกรนด์แคนยอนที่ว่านี้จะสวยงามขนาดไหน?

 

 

 

เดินดูวิวไปทั่วๆ  พบเสาหินทรงดอกเห็ดอยู่มากมาย ก็ดูแปลกตาไปอีกแบบนะ ถ้าเทียบกับวิวตึกสูงๆ ในเมืองกรุง

 

แล้วแพะเมืองผีเกิดจากอะไรล่ะ?

 

แพะเมืองผี เกิดจาก

การกำเนิดของแพะเมืองผีนั้น ทางกรมอุทยานแห่งชาติได้อธิบายไว้ว่า

 

จากการพิสูจน์ของนักธรณีวิทยา ได้ประมาณของค่าอายุดินบริเวณ แพะเมืองผี ว่าอยู่ในยุคควาเทอร์นารี (Quaternary) มีอายุประมาณ 10,000 – 30,000 ปี ซึ่งลักษณะการเกิดของเสาดิน เกิดจากกรวดดิน หิน ทราย จับตัวกันยังไม่หนาแน่น

 

 

ซึ่งประกอบด้วยชั้นหิน ทรายละเอียด การผุพังไม่เท่ากันเมื่อฝนตก เกิดลม ชั้นหินที่มีความต้านทานน้อยกว่า ก็จะถูกชะล้าง กัดกร่อนโดยง่าย เหลือเพียงชั้นที่มีความต้านทานต่อความผุกร่อนมากกว่าจะทำให้เป็นแท่งเป็นหย่อม และมีรูปร่างแตกต่างกัน

 

ประติมากรรม 30,000 ปีโดยน้ำมือธรรมชาติ  ไม่ธรรมดาเลยนะนี่

 

ประวัติแพะเมืองผี

เพื่อนๆ สงสัยมั้ย? ว่าทำไมเค้าถึงเรียกว่า แพะเมืองผี?

 

ตำนานแพะเมืองผี เล่าว่ามีหญิงชราได้เดินทางเข้าไปหาผัก หน่อไม้ มาเป็นอาหาร แต่หลงป่าแล้วไปเจอทองคำ จึงพยายามหาทางนำทองคำกลับบ้าน ได้ตัดไม้มาทำเป็นราวเพื่อแบกทอง แต่ตำนานว่าไว้ เทวดาท่านเพียงเนรมิตทองให้เห็น แต่ไม่ให้เอาทองไปไหน หญิงชราพยายามยกทองขึ้นมา แต่ไม่สามารถทำได้

 

 

 

หญิงชราจึงหาทางกลับหมู่บ้าน ไปบอกชาวบ้านให้มาช่วยเหลือ ชาวบ้านมากมายพอได้รู้ข่าวก็ตกใจ จึงเดินทางเข้าไปในป่าแห่กันไปขุดทอง เมื่อชาวบ้านมาถึง ทองเหล่านั้นก็อันตรธานหายไป แต่ได้พบรอยเท้าประหลาด หญิงชราและชาวบ้านพยายามสะกดรอยตามรอยเท้า เข้าไปจนถึงบริเวณเสาเมโร  (เสารูปเหมือนปราสาทศพผู้ตายทางภาคเหนือ)   หญิงชราและชาวบ้านจึงได้ตั้งชื่อสถานที่นี้ว่า แพะเมืองผี  เสาเมโรในที่นี้ก็คือแท่งหินที่ปรากฎให้เห็นในปัจจุบัน

 

โดยคำว่า แพะเมืองผี นั้นหมายถึง

  • แพะ หมายถึง ป่าละเมาะ
  • เมืองผี หมายถึง ความเงียบเหงา (เหมือนเมืองผี)

 

และแล้วก็ถึงบางอ้อ แพะเมืองผี ไม่เกี่ยวอะไรกับแพะ หรือผีสางนางไม้เลย ที่จริงแล้วก็คือคำโบราณที่ใช้เรียกป่าละเมาะที่เงียบๆ นั่นเอง

 

ที่ตั้งแพะเมืองผี

ถ้าเพื่อนๆ มี GPS สามารถปักหมุดในเครื่องนำทางที่พิกัด 18.183813, 100.208449 หรือขับรถไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 101 ระหว่างจังหวัดแพร่-น่าน ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 7 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวาไปแพะเมืองผีขับต่อไปอีก 3 กิโลเมตรก็ถึงวนอุทยานแพะเมืองผี

 

 

ใครยังไม่เคยไป แพะเมืองผี ก็ลองไปดูสักครั้ง  แต่อย่าไปเวลากลางวันช่วงแดดแรงจัดๆ เดี๋ยวจะเป็นลมได้ ไปถึงช่วงเย็นๆ แดดร่มไม่ร้อน จะได้เดินชมทัศนียภาพสบายๆ ในวันพักผ่อน

 

สถานอื่นๆ ซึ่งมีลักษณะเป็นเนินเขา เสาหินที่ถูกสายน้ำ และลมกัดเซาะมาเป็นเวลานาน ที่ได้สมญานามว่าแกรนด์แคนยอนเมืองไทย นอกเหนือจากแพะเมืองผี ก็ยังมีอีกหลายที่เช่น

  • สามพันโบก จ.อุบลราชธานี
  • เสาดินนาน้อย จ.น่าน
  • ผาช่อ จ.เชียงใหม่
  • ละลุ  จ.สระแก้ว
  • กองแลน จ.แม่ฮ่องสอน

 

ใครว่างๆ ก็อย่าลืมตามเก็บมาให้ครบ แล้วอย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะ

 

เครดิตข้อมูล phrae.go.th

Comments